ฟิลเลอร์

เพิ่มความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติด้วย ฟิลเลอร์ (Filler)

เพิ่มความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติด้วย Filler ย้อนเวลาให้ผิวหน้าสวยดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม ด้วยการฉีด ฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มผิวในกลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับสารธรรมชาติที่อยู่ในผิว และมีความปลอดภัยสูง เข้าไปทดแทนคอลลาเจนและ HA ใต้ผิวที่เสื่อมสลายไป

คืนความชุ่มชื่นและกระชับให้กับผิวสวย ให้ผลได้ชัดเจนหลังจากการรักษาครั้งแรก ปกติเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น HA ธรรมชาติที่อยู่ใต้ผิวหนังจะมีปริมาณที่ลดลงส่งผลให้เกิดริ้วรอย โครงสร้างใบหน้าแลดูหย่อนคล้อย ดังนั้น การเติมเต็มด้วย ฟิลเลอร์ จะช่วยเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าของคุณกลับมาเต่งตึง และสามารถเติมเต็มริ้วรอยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติใน ทันทีด้วยความปลอดภัย

บริเวณใดบ้างที่สามารถฉีด Filler ได้ ?

  • บริเวณร่องแก้ม
  • ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบริมฝีปาก
  • เสริมจมูก เสริมคาง
  • แผลเป็นหลุม
  • ริมฝีปาก
  • ร่องใต้ตา

สอบถามเพิ่มเติม

FIller

dsclinic doctor

สารเติมเต็มที่ว่าคืออะไร ?

สารเติมเต็มมีหลายชนิด แบ่งเป็นกลุ่มสารเติมเต็มตามธรรมชาติซึ่งอยู่ได้ชั่วคราว และสารเติมเต็มที่เป็นสิ่งแปลกปลอม เช่น Silicon

ซึ่งจะอยู่ได้ถาวรในผิวหนั้ง แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงเฉพาะสารเติมเต็มตามธรรมชาติที่ทางคลินิกใช้ นั่นก็คือ “Restylane”

 

Restylane คืออะไร ?

     Restylane คือสารเติมเต็มผิวตามธรรมชาตี่มีความปลอดภัยสูง ไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบการแพ้ก่อนทำการรักษา Restylane เป็นเจลคริสตัลผลิตจาก Hyaluronic Acid (HA) ด้วยกระบวนการ Minimal Stabilization

ส่งผลให้ HA สามารถคงอยู่ใต้ผิวหนังได้ยาวนานขึ้น และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยมีคุณสมบัติเก็บกักน้ำให้ผิว และรักษาช่องว่างเซลล์ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างปัญหาที่แก้ได้ด้วย Filler

  1. แก้ไขริ้วรอยร่องแก้ม : ริ้วรอยต่าง ๆ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความร่วงโรยของผิวได้ ริ้วรอยร่องแก้มก็เช่นเดียวกัน ยิ่งอายุมากขึ้นริ้วรอยก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ร่องดูลึกขึ้น สารเติมเต็มผิว Filler ช่วยเติมเต็มริ้วรอยเหล่านี้ให้หายไปในทันทีโดยใช้เวลาเพียง 10 – 15 นาที ก็ทำให้ใบหน้าคุณดูอ่อยเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  2. ฉีดเสริมจมูก : การเสริมจมูกในเมืองไทย จัดเป็นค่านิยมทางศัลยกรรมตกแต่ง อันดับต้นๆ โดยพบว่าการเสริมจมูกในยุคแรกจะใช้วิธีผ่าตัด ซึ่งมีหลากหลายวิธี ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ต่อมาได้มี การพัฒนาแนวการเสริมจมูกแบบใหม่ ที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ในปัจจุบันแพทย์นิยมฉีดด้วย สาร Restylane มากกว่ากลุ่มอื่นๆ เพราะใช้ปริมาณน้อยกว่า ฉีดง่ายกว่า การยุบตัวน้อยกว่า อยู่คงที่ไม่ไหลเอียงเหมือนซิลิโคนเหลว ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัยกว่าสารตัวอื่นๆ ความพึงพอใจของคนไข้มากกว่าสารตัวอื่นๆ
  3. ฉีดเสริมคาง : ช่วยให้รูปหน้าดูเรียวหวานขึ้น เป็น V-shape ซึ่งการฉีดfiller มีข้อดีกว่าการผ่าตัดเสริมซิลิโคน เพราะไม่เกิดแผลเป็นหลังการผ่าตัด ไม่ต้องพักรักษาตัว หลังฉีดสามารถทำงานได้เลย และแลดูเป็นธรรมชาติมากกว่า “การเติมเต็มด้วยFiller จะช่วยเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าของคุณกลับมาเต่งตึง และสามารถเติมเต็มริ้วรอยให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติใน ทันทีด้วยความปลอดภัย”
  4. ฉีดแก้มให้เต็ม : หากคุณไม่พอใจในรูปหน้าที่มีแก้มค่อนข้างซูบหรือตอบ การฉีด Filler จะทำให้แก้มดูอวบอิ่มมากขึ้น ดูมีน้ำมีนวล แลดูมีสุขภาพแข็งแรง โดยที่สารดังกล่าวจะไม่ตกค้างและจะสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
  5. แก้ไขปัญหารอบดวงตา : Filler เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ช่วยแก้ไขปัญหารอบดวงตาได้ในทันทีและปลอดภัยช่วยแก้ไขปัญหาร่องน้ำตาลึก รอยตีนกาและรอยคล้ำใต้ตา ทำให้คุณแลดูดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและสามารถแต่งหน้าหลังการรักษาได้ตามปกติ
  6. ฉีดรอยหลุม สิวให้เต็ม : การฉีดหลุมสิว ได้ผลดีเฉพาะหลุมสิวแบบรีดแล้วเรียบ (Rolling Scar) และมีปริมาณไม่มากนัก สำหรับรอยหลุมแบบจิก หรือแบบที่มีพังผืดเกาะใต้ฐาน หลุมสิว ได้ผลไม่ดีนัก
  7. ฉีดบริเวณ อื่นๆ ที่ต้องการแก้ไข : แพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป เช่น การฉีดเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม เติมขมับให้เต็ม ยกคิ้ว เติมโหนกแก้ม

 

เมื่อไรจึงจะเห็นผล ?

Restylane เห็นผลการรักษาทันทีหลังทำเสร็จ และผลการรักษาอยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน

เจ็บมากแค่ไหนตอนที่ฉีด Restylane ?

การฉีด Restylane ทำโดยการใช้เข็มฉีดยาขนาดเล็ก ความเจ็บจึงมีไม่มากนัก แต่จำเป็นต้องทายาชาบนผิวก่อนทำการฉีด Restylane เพื่อให้รู้สึกสบายขึ้นขณะทำการรักษา แต่บางบริเวณอาจต้องใช้ยาชาฉีดร่วมด้วย

ผลข้างเคียงจากการฉีด Restylane มีอะไรบ้าง ?

ผลข้างเคียงของการฉีด Restylane ที่พบได้คือ หลังฉีดเสร็จบริเวณที่ฉีดจะมีอาการบวมตึงหรือแดงเล็กน้อยประมาณ 1 – 2 วัน บางรายอาจคลำพบก้อนเล็ก ๆ บริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปเองประมาณ 1 – 4 สัปดาห์

การฉีด Restylane สามารถทำซ้ำได้กี่ครั้ง ?

การฉีด Restylane สามารถกลับมาฉีดเพิ่มได้เรื่อย ๆ เมื่อผู้รับการรักษารู้ว่า Restylane เดิมเริ่มลดลง Restylane เป็นสารที่ใช้แล้วหมดไปไม่ตกค้างเป็นสารพิษในผิว เมื่อโมเลกุลสลายตัวจะมีการขับผ่านทางตับอย่างรวดเร็ว

Filler

โปรโมชั่น และ รีวิว

ฟิลเลอร์

ปรึกษาแพทย์ / สอบถามเพิ่มเติม / จองคิว







    หรือกด Add Line

    คลิปวิดิโอรีวิว

    ภาพรีวิวจากผู้รับบริการ

    ผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

    ปรึกษาแพทย์ ฟรี!!

    ปรึกษาคุณหมอ และรับสิทธิพิเศษก่อนใคร